Archives

Categories

Uncategorized

วิธีเลือกใช้งานบุฟรี่ไฟฟ้า (E-Cigarettes) ให้เหมาะกับการสูบของตนเอง

วิธีเลือกใช้งานบุฟรี่ไฟฟ้า (E-Cigarettes) ให้เหมาะกับการสูบของตนเอง

 

เมื่อบุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-Cigarettes เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเหล่าบรรดาสิงห์อมควันที่อยากเลิกบุหรี่จริงด้วยปัจจัยหลายด้านทั้งความเสี่ยงอันตรายต่อโรคภัยไข้เจ็บของตนเอง คนรอบข้าง ไปจนถึงปัญหากลิ่นติดปาก ติดมือ ติดตามเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ คำถามของคนที่คิดอยากเปลี่ยนมาใช้งานพอด (Pod) ย่อมหนีไม่พ้นจะเลือกซื้อแบบไหนดีให้เหมาะกับการสูบของตนเอง มีสิ่งใดต้องพิจารณาบ้าง มาเช็กลิสต์ข้อมูลเหล่านี้ไปพร้อมกันเลย

 

ก่อนเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้า (E-Cigarettes) ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน

 

1.ทำความเข้าใจประเภทน้ำยาในการใช้งาน

สิ่งแรกต้องรู้จักกับน้ำยาซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการสูบพอดเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันน้ำยาที่นิยมใช้กันจะแบ่งออกเป็น 2 ตัวหลัก ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันชัดเจน ได้แก่

 

  • น้ำยา Freebase เป็นน้ำยาพอดแบบดั้งเดิมที่ใช้กันมายาวนานหลายทศวรรษ เป็นนิโคตินรูปแบบบริสุทธิ์ ไร้สารแต่งเติมใด ๆ มีให้เลือกตั้งแต่ระดับนิโคตินน้อยไปจนถึงปานกลาง ร่างกายจะดูดซึมทีละนิด ตัวเลือกเยอะ กลิ่นชัดเจน มีควันเยอะ ราคาถูก แต่มักรู้สึกแสบคอ
  • น้ำยา Salt Nic เป็นน้ำยาพอดรูปแบบใหม่ที่มีการแต่งเติมด้วยสาร Benzoic Acid ระดับนิโคตินมีตั้งแต่น้อยไปจนถึงสูงมาก เหมาะกับคนที่สูบบุหรี่จัด ไม่รู้สึกแสบคอ ให้ควันน้อยกว่า ร่างกายดูดซึมได้รวดเร็ว ราคาสูงกว่า แต่ตัวเลือกกลิ่นมักมีน้อย และไม่ค่อยชัดเจนเหมือนกับแบบแรก

 

2.ประเภทบุหรี่ไฟฟ้าที่นิยม

สิ่งต่อมาในการเลือกสูบ E-Cigarettes ให้เหมาะกับตนเองต้องรู้จักประเภทบุหรี่ไฟฟ้าด้วย หากเทียบกันง่าย ๆ ก็จะมีอยู่ 2 แบบ คือ พอดแบบเติมน้ำยา คุณสามารถเปลี่ยนน้ำยาใหม่ได้ตามชอบ ซื้อครั้งเดียวใช้งานได้นาน เหมาะกับคนชอบลองความแปลกใหม่อยู่เสมอ และแบบพอดใช้แล้วทิ้ง คือ เมื่อสูบจนครบตามจำนวนแล้วก็ทิ้งได้ทันที หาซื้อรสชาติใหม่ เหมาะกับคนเน้นความสะดวก พกพาง่าย 

 

3.ฟังก์ชันการใช้งานพิเศษอื่น ๆ

จากที่อธิบายเอาไว้เบื้องต้นในข้อก่อนหน้า จริง ๆ แล้วการเลือกใช้งานบุหรี่ไฟฟ้ายังมีเรื่องของฟังก์ชันพิเศษอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ระบบการแจ้งเตือนแบตเตอรี่ต่ำ ปุ่มกดทุกครั้งเมื่อต้องการสูบ เป็นต้น ซึ่งลองประเมินจากพฤติกรรมการสูบของตนเองด้วยว่าเป็นอย่างไร เช่น หากสูบบ่อยการมีตัวแจ้งเตือนแบตก็จะช่วยให้คุณรู้ว่าถึงเวลาต้องชาร์จทันที ทว่าเมื่อมีฟังก์ชันสูงขึ้น ราคาก็เพิ่มตามเป็นเรื่องปกติ

 

4.ลักษณะการทำความร้อน

ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อ E-Cigarettes เอาไว้ใช้งานไม่แพ้ข้ออื่นเลย ปกติแล้วบุหรี่ไฟฟ้าจะแบ่งรูปแบบการทำความร้อนเป็น 3 วิธี ได้แก่

  • การนำไฟฟ้า หมายถึง ความร้อนและขดลวดสัมผัสกับวัสดุอื่น ๆ ในตัวพอดจะทำให้เกิดการนำไฟฟ้า เพียงกดปุ่มก็สูบได้ทันที
  • การพาความร้อน หมายถึง พาความร้อนและขวดลวดไปสัมผัสกับวัสดุอื่น ๆ ให้เกิดไฟฟ้าและไอควัน
  • การเหนี่ยวนำความร้อน หมายถึง มีสนามแม่เหล็กเพื่อให้ความร้อนกับตัววัสดุภายในจนเกิดเป็นไอควัน

อย่างที่รู้เหมือนกันว่ายิ่งระบบมีความใหม่มากเท่าไหร่ก็ราคาสูงตาม ซึ่งส่วนใหญ่คนยังนิยมใช้ 2 แบบแรกมากกว่า 

 

สรุปแล้วเลือกใช้งาน E-Cigarettes ยังไงให้เหมาะกับตนเอง

คุณต้องถามตนเองก่อนว่าจุดประสงค์สำคัญในการเปลี่ยนมาใช้งาน E-Cigarettes คือเรื่องใด หากต้องการเลิกบุหรี่แบบถาวรก็ควรเน้นสูบแบบที่ปริมาณนิโคตินปานกลางแล้วค่อย ๆ ลดระดับสู่ปริมาณน้อย ท้ายที่สุดจึงเลิกขาด แต่ถ้าเป็นสายไม่อยากรบกวนคนอื่นเรื่องกลิ่น ก็อาจใช้เป็นน้ำยา Salt Nic ควันน้อย แถมเลือกปริมาณนิโคตินได้ตามที่ตนเองต้องการ ส่วนใครอยากดูแลสุขภาพมากขึ้น เน้นพกพาง่าย ก็แนะนำให้เลือกพอดใช้แล้วทิ้ง

 

จะเห็นว่าจริงแล้วการเลือกบุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-Cigarettes ให้เหมาะกับตนเองมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณจึงต้องศึกษาข้อมูลในทุกมิติให้ชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเมื่อซื้อแล้วพร้อมตอบโจทย์ได้อย่างน่าประทับใจ ใช้งานคุ้มค่า ไม่รู้สึกเสียดายเงิน หรือต้องกลับไปสูบบุหรี่จริงแบบเดิมอีก สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือต้องเลือกแบรนด์น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน ไว้วางใจได้จริง ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อยู่ตลอด ชอบรสไหน สไตล์ใด ก็ตัดสินใจกันได้ตามชอบเลย

 

 

บทความเรียบเรียงจาก : https://vape-th.com/