Archives

Categories

Uncategorized

โรคสุดอันตรายใน ต่อมน้ำเหลือง

ผลข้างเคียง ยาวัณโรค ต่อมน้ำเหลือง

โรคสุดอันตรายใน ต่อมน้ำเหลือง

ผลข้างเคียง ยาวัณโรค ต่อมน้ำเหลือง สามโรคเกี่ยวกับ ‘ต่อมน้ำเหลือง’ ที่มองข้ามไม่ได้..! เช็กตัวเองก่อนว่าเข้าข่ายรึป่าวว!

นอกจากนี้ ยังเป็นโรคใหม่ที่สามารถวิเคราะห์ใน AGNOS ได้อีกด้วย! จะมีโรคอะไรบ้างมาดูกัน

วัณโรคต่อมน้ำเหลือง (TB lymph node)

ผลข้างเคียง ยาวัณโรค ต่อมน้ำเหลือง อาจเป็นชื่อโรคที่ไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อวัณโรคปอด แต่จริงๆแล้วเชื้อวัณโรคนี้ยังสามารถก่อโรคที่อวัยวะอื่นได้เช่นกัน หนึ่งในอวัยวะที่พบการติดเชื้อได้ก็คือต่อมน้ำเหลืองนั่นเอง

คืออะไร..?

วัณโรคที่ก่อโรคที่ต่อมน้ำเหลือง ส่วนใหญ่พบที่ต่อมน้ำเหลืองลำคอ โดยอาจมีต่อมน้ำเหลืองบวมโตเพียงต่อมเดียว หรือบวมต่อกันหลายๆต่อมเป็นสายเหมือนสายลูกประคำก็ได้.โดยต่อมน้ำเหลืองที่บวมขึ้นมามักจะไม่เจ็บ และไม่ได้เป็นก้อนแข็งมาก ก้อนจะโตขึ้นเรื่อยๆอย่างช้าๆหากไม่ได้รับการรักษา

เกิดจากอะไร?

เชื้อวัณโรคติดต่อกันทางการหายใจ ไอ จาม ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรค หรืออาศัยในสภาพอากาศที่ไม่ถ่ายเท แออัด มีการทำความสะอาดได้ไม่ถูกสุขลักษณะ ก็จะมีโอกาสติดเชื้อมากกว่า โดยเชื้อจะสามารถแพร่กระจาย และลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง

อาการ

  • คลำได้ต่อมน้ำเหลืองบวมโตที่ลำคอด้านใดหรือที่ส่วนใดของลำคอก็ได้ หรือในส่วนอื่นๆของร่างกาย, อาจต่อมฯเดียวหรือหลายต่อมฯกระจายประมาณ 1-3 ต่อม
  • มักพบเกิดข้างเดียวของลำคอ/ของร่างกาย (85%ของผู้ป่วย)
  • ขนาดต่อมฯมักไม่เกิน 3 ซม.
  • ต่อมมักไม่เจ็บ และไม่แข็งมาก เคลื่อนที่ได้
  • ในระยะต่อมา ต่อมฯจะ’โตช้าๆ’ ต่อเนื่อง:
  • อาจโตได้มากกว่า 5-10 cm
  • จะค่อยๆแข็งขึ้นต่อเนื่อง
  • ยึดติดกับเนื้อเยื่อรอบๆต่อมฯจนเคลื่อนที่ไม่ได้
  • อาจเริ่มมีอาการเจ็บที่ต่อมฯ
  • ต่อมอาจแตกและมีสารคัดหลั่งสีขาวไหลออกมา (พบประมาณ 5-10%) ซึ่งสารคัดหลั่งนี้จะมีเชื้อวัณโรคปนและอาจก่อการติดเชื้อได้
  • ต่อมน้ำเหลืองอาจโตเป็นเม็ดๆเรียงเป็นสาย ลักษณะคล้ายสายประคำ มักอยู่ทางด้านหน้าของลำคอ

อาการทั่วไปที่มักจะมีร่วมด้วย คือ

  • อ่อนเพลีย
  • น้ำหนักลดผิดปกติโดยหาสาเหตุไม่ได้
  • มีไข้ต่ำๆ
  • มีเหงื่อออกกลางคืน

ติดต่อได้มั้ย?

ตัววัณโรคต่อมน้ำเหลือง ทั่วไปไม่แพร่เชื้อติดต่อสู่ผู้อื่น  แต่ในกรณีผู้ป่วยมีวัณโรคปอดร่วมด้วย วัณโรคปอดจะเป็นตัวแพร่เชื้อฯสู่ผู้อื่นจากการไอ จาม หายใจ

การรักษา

  • ทานยาฆ่าเชื้อวัณโรค โดยจะต้องรักษานาน 6-9 เดือน

 

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)

คืออะไร?

มีเนื้องอกร้ายที่ต่อมน้ำเหลืองหรือโครงสร้างต่อม ซึ่งระบบน้ำเหลืองก็เป็นระบบหนึ่งของภูมิคุ้มกัน ประกอบไปด้วย อวัยวะน้ำเหลือง ได้แก่ ม้าม และไขกระดูก ซึ่งภายในอวัยวะเหล่านี้จะเต็มไปด้วยน้ำเหลือง มีหน้าที่นำสารอาหารและเซลล์เม็ดเลือดขาวไปทั่วร่างกาย และเมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวเหล่านี้เกิดความผิดปกติ จึงทำให้เกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขึ้นมา

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองสามารถเกิดได้ในทุกที่

เพราะต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น คอ รักแร้ ข้อพับแขน ข้อพับขา ช่องอก ช่องท้อง ลำไส้ หรือกระเพาะ

เกิดจากอะไร?

ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น

  • การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น การติดเชื้อไวรัสเอชทีแอลวี (Human T-lymphocytic virus – HTLV),
  • การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อเอชไพโลไร ที่ทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบ
  • การมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น โรคเอดส์,
  • เป็นโรคภูมิแพ้ตนเองบางชนิด
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม
  • การสัมผัสวัตถุทางเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็ง เช่น การสัมผัสยาฆ่าแมลง
  • การกินอาหารพวกโปรตีนและไขมันสูง
  • การที่ร่างกายมีความเป็นกรดในระยะเวลานานก็เป็นสาเหตุทั่วไปที่ทำให้เซลล์ต่อมน้ำเหลืองกลายเป็นมะเร็งได้

อาการ

อาการเริ่มต้น

  • พบก้อนเนื้อบริเวณ : คอ รักแร้ ขาหนีบ หรือ เต้านม มักไม่มีอาการเจ็บ
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • เหงื่ออกตอนกลางคืน
  • คันทั่วร่างกาย
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก
  • ปวดหัว (มักพบในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท)

อาการระยะลุกลาม

  • ซีด เลือดออกง่าย เช่น จุดเลือดออกจามตัว หรือเป็นจ้ำๆเลือด
  • อาจมีอาการแน่นท้อง ท้องโต อาหารไม่ย่อย (ในกรณีเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง)

การรักษา

  • การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
  • การรักษาด้วยการฉายรังสี (Radiation Therapy)
  • การรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Transplantation)

 

ต่อมน้ำเหลืองที่คอติดเชื้อ (Cervical Lymphadenitis)

ต่อมน้ำเหลืองซึ่งเป็นต่อมที่มีอยู่ทั่วร่างกาย ภายในประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่สำคัญในการช่วยต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค เชื้อไวรัส และแบคทีเรียต่าง ๆ  ต่อมน้ำเหลืองโตเป็นอาการบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ส่วนน้อยเกิดจากภาวะอื่นๆ เช่น มะเร็ง

อาการของโรค

  • ต่อมน้ำเหลืองบวมโตขึ้น
  • รู้สึกปวด หรือกดเจ็บ
  • ผิวหนังบริเวณดังกล่าวแดง สัมผัสแล้วรู้สึกอุ่น
  • อาจมีอาการที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อบริเวณศีรษะร่วมด้วย เช่น เจ็บคอ น้ำมูกไหล เป็นไข้ ปวดหู ฟันผุ

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค

  • การซักประวัติและตรวจร่างกาย โดยจะซักประวัติรายละเอียดการโตของต่อมน้ำเหลืองและอาการอื่นๆ ที่พบร่วม ตรวจร่างกาย คลำต่อมน้ำเหลือง ตรวจช่องปาก จมูก หู
  • เจาะเลือด ตรวจชิ้นเนื้อต่อมน้ำเหลือง
  • ส่งตรวจเอกซเรย์ หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)

การรักษา

  • หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจะรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะ
  • หากเกิดจากเชื้อไวรัสก็มักจะหายไปได้เอง
  • หากรู้สึกเจ็บหรือกดแล้วเจ็บก็อาจรับประทานยาบรรเทาอาการปวด เช่น ไอบูโพรเฟน หรือพาราเซตามอล พักผ่อนให้เพียงพอ

_______________________________________________________

อ้างอิง :

https://mahosot.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87.html

https://haamor.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87#:~:text=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87(Tuberculous%20lymphadenitis)%20%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A,%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%9A%20%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/lymphoma_cancer/

https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/lymphoma#:~:text=%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87,%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8

https://www.princsuvarnabhumi.com/content-lymphoma/